โลกอยู่ในสภาวะวิกฤต ทรัพยากรธรรมชาติใกล้จะหมดสิ้น มลพิษทำลายระบบนิเวศอย่างรุนแรง ซีรีส์ไซไฟดราม่าเรื่อง ถึงเวลาต้องลาโลก Goodbye Earth (2024) ” พาผู้ชมเข้าสู่อนาคตอันน่าสะพรึงกลัวที่มนุษยชาติต้องจากโลกแห่งนี้ไป ซีรีส์ทำให้เราได้ตระหนักถึงสภาพปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันและความจำเป็นที่เราจะต้องลงมือแก้ไข ก่อนที่จะสายเกินไป ดังคำพูดเตือนสติของตัวละครนักวิทยาศาสตร์สาวซอนมีผู้บุกเบิกการเดินทางสู่ดาวอังคาร “โลกของเราใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว” เป็นหนึ่งในซีรีส์ยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดในปีนี้ ไปดูกันเลยว่าเบื้องหลังความสำเร็จของเรื่องนี้มีอะไรบ้าง และมันส่งสารสำคัญให้ผู้ชมตระหนักเรื่องใดไว้บ้าง
เรื่องย่อ : ถึงเวลาต้องลาโลก Goodbye Earth (2024)
ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมรุนแรง ทำให้มนุษยชาติต้องหาทางออกจากโลกและย้ายไปอยู่ดาวอังคารแทน นักวิทยาศาสตร์ชาวเกาหลีคนหนึ่งชื่อ ซอนมี พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลก แต่กลับประสบความล้มเหลว เธอจึงต้องมุ่งมั่นที่จะส่งมนุษย์ไปตั้งรกรากบนดาวอังคารแทน
ร่วมด้วยทีมนักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายประเทศ ซอนมีเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม งบประมาณจำกัด และเวลาที่เหลืออยู่น้อยลงเรื่อยๆ ก่อนที่โลกจะกลายเป็นที่ไม่สามารถอาศัยอยู่ได นอกจากมิตรความสัมพันธ์ในทีมงาน ซีรีส์ยังให้ความสำคัญกับชีวิตครอบครัวและความรักของซอนมีกับสามีวิศวกรอวกาศ แสดงให้เห็นมุมมองส่วนตัวในการรับมือกับวิกฤตครั้งใหญ่นี้
ซีรีส์ดราม่าไซไฟเรื่องนี้เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่น่าจดจำในปี 2023 ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่ความสมจริงของเนื้อหาที่สะท้อนถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ซีรีส์ได้นำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และข้อเท็จจริงต่างๆ มาผสมผสานกับเรื่องราวอย่างลงตัว ทำให้เห็นถึงผลกระทบร้ายแรงที่โลกจะต้องเผชิญหากยังไม่หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
อีกจุดเด่นคือการแสดงของคิมแทรีในบทบาทของนักวิทยาศาสตร์ผู้อุทิศตนเพื่อภารกิจครั้งสำคัญ เธอสามารถสื่อถึงความเพียรพยายามและอารมณ์ความรู้สึกต่อการสูญเสียโลกได้อย่างน่าประทับใจ ที่น่าชื่นชมคือการเล่าเรื่องที่สลับไปมาระหว่างภารกิจการเดินทางไปดาวอังคารและชีวิตครอบครัวของตัวละคร ซึ่งทำให้ผู้ชมได้เห็นมุมมองหลากหลายและตระหนักถึงผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มากขึ้น
สิ่งที่ซีรีส์บางช่วงอาจทำออกมาได้ไม่ดีนักคือการบางตอนที่ดูค่อนข้างช้าและน่าเบื่อไปบ้าง อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงบางช่วงเท่านั้น โดยรวมแล้วเนื้อเรื่องค่อนข้างดีเยี่ยม สรุปแล้ว “Goodbye Earth” เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ควรค่าแก่การรับชม ด้วยการเล่าเรื่องที่ซาบซึ้งใจ การแสดงที่ยอดเยี่ยม และสารสำคัญที่ทำให้เราตระหนักถึงการดูแลรักษาโลกใบนี้
บทความโดย : แทงบอลออนไลน์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
